Gen Z (เกิดปี 1997–2012) กำลังกลายเป็นแรงงานกลุ่มใหญ่ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กรทั่วโลก และเป็นเจเนอเรชันที่มีมุมมองต่อการทำงานแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจน
สำหรับ Gen Z “งานที่ดี” ไม่ได้วัดจากเงินเดือนหรือชื่อตำแหน่งเท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์คุณภาพชีวิต สุขภาพกายใจ ความยืดหยุ่น และโอกาสเติบโตที่มีความหมาย สวัสดิการแบบเดิมจึงไม่เพียงพออีกต่อไป
องค์กรที่ต้องการดึงดูดและรักษาคนเก่งเจเนอเรชันนี้ จำเป็นต้องออกแบบสวัสดิการที่ตอบโจทย์จริง และแสดงให้เห็นว่าองค์กร “เข้าใจ” คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหัวใจของการสร้าง Employee Experience ที่ยั่งยืน และเป็นจุดที่แพลตฟอร์มอย่าง WellExp ช่วยยกระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5 แนวทางออกแบบสวัสดิการให้ตอบโจทย์ Gen Z
1. Work-Life Balance คือเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องรอง
Gen Z มองคุณภาพชีวิตเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จ การทำงานไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต พวกเขาจึงให้ความสำคัญกับสวัสดิการที่ช่วยจัดการเวลาและออกแบบวันทำงานได้อย่างยืดหยุ่น เช่น
- Flexible Hours
- การทำงานแบบ Hybrid หรือ Work from Anywhere
- วันลาพักผ่อนที่มากกว่าขั้นต่ำทางกฎหมาย
การสร้างระบบที่ให้พนักงานบริหารชีวิตได้จริง เป็นหัวใจสำคัญของการดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เลือกองค์กรของคุณมากกว่าองค์กรคู่แข่ง
2. สุขภาพกาย ใจ ต้องได้รับการดูแลเท่ากัน
สำหรับ Gen Z สุขภาพจิตและความสบายใจเป็นเรื่องแรก ๆ ที่พวกเขาคาดหวังจากที่ทำงาน ไม่ใช่แค่ประกันสุขภาพ แต่รวมถึงสวัสดิการด้าน Well-being ที่ช่วยดูแลแบบองค์รวม เช่น
- งบปรึกษานักจิตวิทยา
- ประกันสุขภาพจิต
- Wellness Program เช่น โยคะ ฟิตเนส มายด์ฟูลเนส
- เวิร์กช็อปด้านการจัดการความเครียด
และด้วยระบบของ WellExp องค์กรสามารถให้พนักงานเลือกบริการ Well-being ที่เหมาะกับตัวเองได้แบบยืดหยุ่นและโปร่งใส
3. ต้องเห็นเส้นทางเติบโตในอาชีพอย่างชัดเจน
Gen Z เชื่อว่าที่ทำงานคือพื้นที่พัฒนาตัวเอง พวกเขาต้องการเห็นว่าองค์กร “ลงทุนในศักยภาพของพวกเขาจริงหรือไม่”
สวัสดิการที่ตอบโจทย์ได้ เช่น
- สิทธิ์เข้าร่วมคอร์ส Upskill/Reskill
- ทุนอบรมหรือ Certification
- Learning Allowance
- แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ที่เข้าถึงง่าย
องค์กรควรสนับสนุนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อให้ Gen Z รู้สึกว่าอนาคตในเส้นทางอาชีพของเขาถูกผลักดันจากองค์กรจริง ๆ
4. ความหลากหลายและความเป็นตัวเอง (Diversity & Inclusion) คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่นับถือ
Gen Z เติบโตในสังคมที่เปิดกว้าง จึงต้องการพื้นที่ทำงานที่เคารพความแตกต่างและส่งเสริมการแสดงตัวตน
สวัสดิการที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้ เช่น
- วันลาเพื่อเหตุผลทางศาสนา ความเชื่อ หรือความหลากหลายทางเพศ
- Dress Code แบบยืดหยุ่น
- กิจกรรมส่งเสริมความหลากหลาย
- สภาพแวดล้อมปลอดภัยสำหรับทุกกลุ่ม
องค์กรที่สร้างวัฒนธรรม Inclusive จะได้เปรียบมากในการดึงดูด Gen Z เข้าร่วมทีม
5. ความมั่นคงทางการเงินคือเรื่องสำคัญ แม้ Gen Z จะยังอายุน้อย
แม้จะเพิ่งเริ่มต้นทำงาน แต่ Gen Z ใส่ใจเรื่องอนาคตทางการเงินอย่างคาดไม่ถึง พวกเขามองหาเครื่องมือที่ช่วยวางแผนความมั่นคงระยะยาว เช่น
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)
- Matching หรือเงินสมทบจากบริษัท
- ความโปร่งใสในการจัดการกองทุน
- สิทธิ์ด้านการออม/การลงทุน
สวัสดิการที่ช่วยดูแลอนาคตทางการเงิน ทำให้ Gen Z รู้สึกว่าองค์กรสนับสนุนพวกเขาในระยะยาวจริง ๆ
สรุป: ออกแบบสวัสดิการแบบ “เข้าใจ Gen Z” คือข้อได้เปรียบใหม่ขององค์กร
คนรุ่นใหม่นี้ไม่ได้มองหางานที่มีแค่รายได้ดี แต่ต้องการงานที่ให้ “คุณค่า” และ “คุณภาพชีวิต” ที่สมดุล
องค์กรที่เข้าใจความต้องการของ Gen Z และมีระบบบริหารสวัสดิการที่ยืดหยุ่น โปร่งใส และตอบโจทย์ได้เป็นรายบุคคล จะมีความได้เปรียบในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการดึงดูดคนเก่ง รักษาพนักงาน หรือสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรง
และด้วยแพลตฟอร์มสวัสดิการดิจิทัลอย่าง WellExp การออกแบบสวัสดิการที่ตรงใจ Gen Z ก็สามารถทำได้ง่ายกว่าเดิม เป็นระบบ ใช้งานง่าย และพร้อมปรับตามไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของพนักงานทุกกลุ่ม